ฟิล์มแท้ vs ฟิล์มเทียม : วิธีดูให้รู้ก่อนเสียเงินฟรี
ฟิล์มติดรถยนต์ราคาโดนใจ อาจไม่ใช่ฟิล์มที่ ใช่ สำหรับคุณเสมอไป
ทุกวันนี้ในตลาดฟิล์มรถยนต์มีสินค้ามากมายหลากหลายยี่ห้อและราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งในจำนวนนี้ มีฟิล์ม ปลอม หรือ ฟิล์มเทียม ปะปนอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะฟิล์มที่อ้างว่าเป็นแบรนด์ดังในราคาที่ถูกกว่าปกติมาก ๆ หรือไม่มีใบรับประกันใด ๆ แนบมา ฟิล์มเหล่านี้อาจไม่ได้ผ่านการควบคุมคุณภาพ และอาจก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ทั้งด้านการใช้งาน ความทนทาน และความปลอดภัยในระยะยาว
ฟิล์มแท้คืออะไร?
ฟิล์มแท้ คือ ฟิล์มที่ผลิตจากโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน มีคุณภาพตามที่ระบุไว้จริง มีข้อมูลผลิตภัณฑ์ชัดเจน และมีการรับประกันจากผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายที่ถูกต้องตามสิทธิ์
จุดเด่นของฟิล์มแท้ คือ คุณสมบัติตรงตามสเปค ไม่ว่าจะเป็นค่ากันความร้อน ค่ากันรังสี UV ความหนา ความใส อายุการใช้งาน หรือคุณสมบัตินิรภัยต่าง ๆ
️ฟิล์มเทียมคืออะไร?
ฟิล์มเทียม หรือฟิล์มปลอม คือ ฟิล์มที่ลอกเลียนแบบยี่ห้อดังโดยใช้วัสดุราคาถูก ไม่มีการรับประกัน ไม่มีมาตรฐานการผลิตที่ชัดเจน และมักจะให้คุณสมบัติที่ด้อยกว่าฟิล์มแท้หลายเท่า แม้ดูจากภายนอกจะคล้ายกันมาก แต่พอติดไปแล้วไม่นานก็เริ่มซีดจาง ลอก หรือกันร้อนไม่ได้อย่างที่โฆษณา
วิธีสังเกตฟิล์มแท้ vs ฟิล์มเทียม
สิ่งที่ต้องตรวจสอบ | ฟิล์มแท้ | ฟิล์มเทียม |
ใบรับประกัน | มีใบรับประกันจากผู้ผลิตหรือตัวแทน | ไม่มีหรือเป็นเอกสารปลอม |
Serial Number | มีเลขเฉพาะติดที่กระจกหรือสติ๊กเกอร์ | ไม่มีเลขกำกับ หรือซ้ำกันทุกคัน |
คุณสมบัติการกันร้อน | ทดสอบได้จริงตามที่ระบุในสเปค | กันร้อนไม่จริง หรือไม่มีข้อมูลชัดเจน |
ลักษณะฟิล์ม | เรียบ เนื้อแน่น สีไม่เพี้ยน ไม่เป็นคลื่น | เนื้อบาง สีด่างเป็นจุด มีคลื่นหรือฟองอากาศ |
ต้นทางการติดตั้ง | ติดจากร้านตัวแทนที่ได้รับอนุญาต | ร้านทั่วไป ไม่ระบุแบรนด์ชัดเจน |
ฟิล์มเทียมทำให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง?
● กันร้อนไม่ได้จริง : รถยังร้อนแม้จะติดฟิล์ม เพราะค่ากันอินฟราเรดต่ำ
● สีซีดจางหรือเป็นคลื่น : ภายใน 36 เดือนหลังติดตั้ง
● ฟองอากาศขึ้น : เนื่องจากฟิล์มคุณภาพต่ำ ไม่แนบกับกระจก
● อายุการใช้งานสั้น : ไม่ถึง 1 ปีฟิล์มเริ่มเสื่อม
● ไม่มีการรับประกัน : เสียเงินซ้ำซ้อนหากต้องลอกและติดใหม่
วิธีทดสอบฟิล์มด้วยตัวเองเบื้องต้น
● ดูแสงทะลุผ่านกระจกตอนกลางวัน : ฟิล์มแท้จะมีความสม่ำเสมอ ไม่เป็นจุด ไม่พร่า
● ใเปิด-ปิดกระจกสักพัก : ฟิล์มเทียมจะมีเสียงแกรบหรือฟองลมขึ้นง่าย
● สังเกตสีฟิล์ม : ฟิล์มปลอมมักมีเฉดสีที่เพี้ยน เช่น เหลืองเขียวออกม่วง
● ใช้เครื่องวัด UV / IR : หากร้านมีเครื่องมือ ตรวจสอบค่ากันความร้อนและรังสี UV ได้ทันที
สรุป
ในยุคที่ฟิล์มติดรถยนต์มีให้เลือกมากมาย การแยกแยะฟิล์มแท้กับฟิล์มเทียมกลายเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้บริโภคควรรู้ เพราะฟิล์มปลอมอาจทำให้คุณเสียทั้งเงิน เวลา และความปลอดภัย การเลือกติดฟิล์มควรคำนึงถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์ เอกสารรับประกัน และคุณสมบัติที่พิสูจน์ได้จริง ไม่ใช่เพียงราคาที่ถูกกว่าเพียงเล็กน้อย เพราะหากต้องลอกออกมาติดใหม่ในเวลาไม่นาน ค่าเสียหายที่ตามมาอาจสูงกว่าที่คิด ดังนั้น หากคุณต้องการฟิล์มที่กันร้อนได้จริง ใช้ได้นาน ไม่เสียเงินฟรี ฟิล์มแท้ที่ติดตั้งโดยตัวแทนที่ได้รับอนุญาต คือทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด